วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Vocabulary Chirstmas Day

http://www.youtube.com/watch?v=-uyticdtNek&feature=youtu.be เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ในวันคริสมาสต์มีความหมายในทางตรงและความหมายในการนำไปใช้ในวันคริสมาสต์ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมของต่างประเทศอีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

Telling the Time


Telling the Time


ในภาษาอังกฤษ มีการบอกเวลาอยู่หลายลักษณะ
1.             ถ้าเป็นเวลาเต็ม ๆ ชั่วโมง ก็บอกได้ง่าย ๆ โดยบอกเวลา แล้วตามด้วย o’clock

เช่น  1 o’clock  คือ ตี 1 หรือ บ่ายโมง  / 5 o’clock คือ ตีห้า หรือ ห้าโมงเย็น

2.             กรณีที่จำนวนนาที ยังไม่เกิน 30 จะใช้ past นำหน้าชั่วโมง ในตอนนั้น
         เช่น  quarter past 4  คือ ตี 4 กับ 15 นาที  หรือ 4 โมงเย็น 15 นาที  /  half past 1 คือ ตี 1 กับ 30 นาที หรือ บ่ายโมง 30 นาที
3.             กรณีที่จำนวนนาที เกิน 30 นาที ไปแล้ว ให้ใช้ to นำหน้าชั่วโมงถัดไป
 เช่น quarter to 9  คือ 8.45 หรือ อีก 15 นาทีเก้าโมง /  five to 8 คือ อีกห้านาที 8 โมง หรืออีก 5 นาทีสองทุ่ม


Preposition of place

Preposition of Place คือคำบุพบทบอกตำแหน่ง สถานที่ ทิศทางของคำนามและคำสรรพนาม เช่น   at, on, in, behind, between, opposite เป็นต้น


มารู้จัก Verb to be กันเถอะ

Verb to be (is, am, are)
        Verb  to  be  มีหลักการใช้  ดังนี้
 1.            ถ้าเป็นกริยาสำคัญในประโยค  มีความหมายว่า  เป็น  อยู่  คือ
2.            ใช้วางข้างหน้า กลุ่มคำ   adjective  ( คำคุณศัพท์ )
3.            ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Continuous ( ประโยคที่มี กริยา ing )
4.            ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Passive  Voice
( ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ )

หลักการใช้กับประธานในประโยค
            1.  ถ้าประธานที่เป็นเอกพจน์บุรุษที่  3  ซึ่งได้แก่  He  She  It  หรือ ชื่อคนคนเดียว
     สัตว์ตัวเดียว  และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง  Verb  to  be  ที่ใช้  คือ  is   เช่น
                        *He  is  a  teacher.                               *Sam  is  a  singer
                        *She  is  in  the  room.                         *My  father   is  sleeping.
                        *It  is  a  dog.                                       *The  pencil  is  on  the  table
            2.   ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่  1  (  ผู้พูดคนเดียว ) ซึ่งได้แก่  I  Verb  to  be ที่ใช้  คือ  am                   
                        *I  am  a  student.                                *  I  am  under  the  table.
            3.  ประธานเป็นพหูพจน์ทุกบุรุษ  ซึ่งได้แก่  We  You  They   หรือ ชื่อคนหลาย 
     สัตว์หลายตัว และสิ่งของหลายอันที่ถูกกล่าวถึง  Verb  to  be  ที่ใช้  คือ  
     are  เช่น
                        *We  are  nurses.                    *My  father  and  I  are  in  the  room.
                         *They  are  policemen.           *Suda and  her  friends  are  under  the  tree.
                        *You  are  very  good.            *The  players  are  in  the  playground.

การสร้างประโยคที่มี Verb  to  be  ให้เป็นประโยคปฏิเสธ.
มีวิธีการดังนี้
            เติม  not   ลงไปในตำแหน่งที่เรียงต่อจาก Verb  to  be    หลัง  is  am  are  เช่น
                        *He  is  not  in  the  room.                   *I  am  not  a  child.
                        *They  are  not  teachers.                    *Suda  is  not  reading.
 หมายเหตุ         รูปย่อของ ปฏิเสธ Verb  to  be  คือ  is  not  ย่อเป็น  isn’t
                        am  not  จะไม่ใช้รูปย่อ                        are  not  ย่อเป็น  aren’t

        การทำประโยคที่มี  Verb  to  be ให้เป็นประโยคคำถาม Yes  No  Question

มีหลักการดังนี้
            เอา  Verb  to  be  มาวางหน้าประโยค  และเอาประธานของประโยคมาวาง
เรียงต่อจากVerb  to  be  หลังจบประโยค  ต้องใส่เครื่องหมายคำถาม เช่น
                        He  is  in  the  room. เปลี่ยนเป็น  Is  he  in  the  room ?
                        They  are  soldiers     เปลี่ยนเป็น   Are  they  soldiers?
                        I  am  a  boy.             เปลี่ยนเป็น  Am  I  a  boy ?